ขนมตาลบ้านทุ่ง
ถ้าพูดถึงขนมตาล สมัยก่อนไม่ได้กินกันง่าย ๆ นะต้องรอช่วงตาลสุก แล้วรอมันหล่นลงมาเอง ถึงจะได้เก็บมายี ทำขนมตาล เท่ากับว่าปีนึงเราจะได้กินขนมตาล อยู่แค่ช่วงสั้น ๆ แค่นั้นเอง เมื่อตอนสมัยผู้เขียนเด็ก ๆ แม่ใช้ให้ไปเก็บลูกตาลสุกประจำค่ะ เอามาได้แค่ครั้งละสองลูก มันหนักเอามาไม่ไหว ก็ตัวเล็กอะนะ แล้วตาลก็ลูกใหญ่ด้วยสิ แต่สองรอบก็พอทำขนมแล้วค่ะ
สมัยนี้ขนมตาลทำกินง่ายขึ้นแต่ต้นตาลน้อยลง บ้านไหนที่มีต้นตาลแล้วมีลูกสุกร่วงลงมาเขาจะยีเอาแต่เนื้อตาลเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อจะเอาไว้ทำครั้งต่อไปได้บ่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยทำให้มีที่เก็บถนอมอาหารไว้ได้นานอย่างตู้เย็น
การทำขนมตาลใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จ อร่อยนุ่มฟูได้ทุกครั้งนะคะ ก็ยากอยู่ค่ะกว่าจะเป็นขนมตาล ผู้เขียนเคยซื้อกินบางครั้งก็เจอแข็งมาก บางครั้งก็ไม่ขึ้นฟู บางครั้งก็จืดไป ไม่หวาน ไม่มัน ไม่นุ่มไม่อร่อย ถึงคราวต้องหันมาทำกินเอง กับสูตรบ้าน ๆ ที่แม่เคยทำให้กินมาตั้งแต่เด็กนี่แหละ มันอร่อยไม่รู้ลืมเชียวค่ะ
วันนี้ได้เนื้อตาลมา ก็จัดการเลยค่ะ มาลุยเลยว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างถึงจะออกมาเป็นขนมตาลสีสวยหน้าตาดี ที่แสนอร่อย
เนื้อตาลที่ยีแล้ว ทับน้ำจนแห้ง 5 ขีด
แป้งข้าวเจ้า 6 ขีด
น้ำตาลทรายขาว 6 ขีด
มะพร้าวขูดขาว 5 ขีด
ไข่เป็ด 4 ฟอง
มะพร้าวทึนทึก สำหรับขูดโรยหน้าขนม
เกลือป่น
ถ้าใครชอบกะทิกล่องก็ได้นะคะ ใช้กล่อง 1 ลิตรเลยค่ะ
ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจในการหัดทำครั้งแรก ก็ใช้ผงฟูช่วย สัก 1 ซองก็ได้ค่ะ เพราะขนมตาลถ้าไม่ขึ้นฟูจะกินไม่ได้เลย จะเสียดายเนื้อตาลค่ะหายาก
ขั้นตอนและวิธีทำ
นำเนื้อตาลมานวดผสมกับแป้งให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันโดยใช้ กะทิที่เราคั้นจากมะพร้าวขูดขาวไว้เป็นตัวช่วยในการผสม
คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้แลปปิดปากกะละมัง พักไว้ให้เนื้อตาลที่ผสมแล้วฟูขึ้นอีก 4-6 ชั่วโมง ให้หมั่นสังเกตว่าแป้งที่ผสมไว้มันขึ้นรึยัง
เมื่อแป้งขึ้นได้ที่แล้ว นำน้ำตาล และไข่ที่ตีไว้ผสมลงไป คนให้เข้ากันค่ะคนเรื่อย ๆ นะคะ ถ้าจะใส่ผงฟูก็ใส่ในขั้นตอนนี้ค่ะ
นำมะพร้าวทึนทึกที่ขูดไว้ขยำกับเกลือป่นนิดหน่อย อย่าให้เค็มจัดนะคะแค่ให้พอมีรสเค็มนิด ๆ เพื่อเอาไว้โรยหน้า
เตรียมหยอดใส่ถ้วยตะไลค่ะ ถ้าใครขยันกลัดใบตองเป็นกระทง ก็ดีค่ะจะได้กลิ่นหอมกว่าใส่ถ้วย ระหว่างที่หยอดขนมใส่ถ้วยต้องคนตลอดเวลานะคะ
เตรียมตั้งน้ำใส่ซึ้งให้เดือดไว้ก่อน แล้วจึงนำเอาซึ้งที่ใส่ถ้วยขนมไปวางค่ะ ใช้เวลานึ่งสัก 20 นาทีก็สุกแล้วค่ะ
มะพร้าวที่ขูดไว้ผู้เขียนจะโรยไปพร้อมกับตอนนึ่งเลยนะคะเพราะว่าเราไม่ทำเยอะเราทำเสร็จแล้วเราก็กินไปเลย แต่ถ้าใครทำขายก็นึ่งมะพร้าวแยกไว้เลยก็ได้ค่ะเผื่อบางคนเขาไม่ชอบกินมะพร้าวที่โรยหน้า
เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมตาลเนื้อนุ่มเด้งฟู หอม หวานมันพอดี ไว้กินกันแล้วค่ะ ลองเอาไปทำตามดูนะคะ ตามสูตรข้างต้นค่ะ ถ้าทำเยอะหรือทำขายก็เพิ่มอัตราส่วนเข้าไปค่ะ ฝึกฝีมือไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่งเอง ขนมไทยมีไว้ให้ลองอีก เป็นร้อยเมนูค่ะ ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ
ติดตามผลงาน อื่น ๆ 👇
พูดคุยทักทาย
____________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น