วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

รีวิวอาหารเสริม ตัวช่วยคุมน้ำหนัก

 รีวิวตัวช่วยคุมน้ำหนัก ผลลัพธ์ดีต่อใจจาก Jejuvita


อยากลดหุ่นแบบเห็นผลปลอดภัยให้ เจจูวิต้า บีจิม ช่วยสิคะ



เจจูวิต้า บีจิม

ก็ของกินบ้านเรามันอร่อยนี่ว่ามั้ย แค่เผลอตัวเผลอใจไปกับรสชาตินิดเดียวเอง ตัวเลขบนตราชั่งถึงกับวิ่งฉิวเลย  ไม่อ้วนน๊าาา แค่อวบระยะสุดท้ายเอง แค่มีพุงเพิ่มขึ้นมาเหมือนคนท้อง 3-4 เดือน แค่มีก้นที่ขยายออกเล็กกว่ากะละมังซักผ้านิดเดียวเอง อีกทั้งเซลลูไลท์ที่ต้นขาอีกเพียบ อร้ายยย ! ไม่อยากมองตัวเองในกระจกเลยบอกตรง ๆ อึดอัดรัดติ้วไปหมด  ใส่เสื้อผ้าขยับไซส์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก S เป็น M จาก M เป็น L ตายแล้ว แล่ว ๆๆๆ จนทำน้ำหนักมาถึง 54.5 กิโลกรัมเลยทีเดียว 


  อ่ะ ๆ ! หลายคนคงคิดใช่มั้ยคะ ? หนักแค่ 54.5 ก.ก ไม่เห็นจะเยอะเลยทำไมบอกว่าอ้วน หรือ น้ำหนักเกิน คืออย่างนี้ แอร์เป็นคนรูปร่างเล็ก โครงสร้างเล็ก สูงแค่ 155 ซม เองค่ะ น้ำหนักที่ดูแล้วพอดียังไงต้องไม่เกิน 48 กิโลกรัมค่ะ แต่นี่ทะยานไปทะลุ เกิน 50 ไปอีกตั้งหลายกิโล เกินคำว่าพอดีไปเยอะเลย นั่นแหละคือปัญหาด้านรูปร่างของแอร์เลยค่ะ  และเชื่อว่าเป็นปัญหากับใครอีกหลายคน  แอร์พยายามออกกำลังกาย และควบคุมอาหารมาตลอดตั้งแต่เริ่มที่จะลดน้ำหนัก แต่ตัวเลขก็ไม่ขยับลงเลย จนต้องลองหาตัวช่วยค่ะ


เจจูวีต้าบีจิม

จนมาเจอ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวนึงที่ช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนัก อาหารเสริมตัวนี้ ชื่อว่า "Jejuvita B-JIM "(เจจูวิต้า บีจิม) ผลิตภัณฑ์ของ เจจูวิต้า บีจิม ใน 1 เซต มี 2 ตัวค่ะ คือมีแบบแคปซูล  และ แบบซองพร้อมชงดื่ม คือ " Jejuvita B - JIM Powder "







  • ตัวแรกที่เป็นแบบแคปซูล ทานก่อนอาหารเช้า ช่วยบล็อกไขมัน แป้ง และน้ำตาล ช่วยเบิร์นและเร่งการเผาผลาญพลังงาน คุมหิวไม่ให้รู้สึกอยากอาหาร และยังมีส่วนที่ช่วยในการขับถ่ายด้วย ในหนึ่งกล่องมีทั้งหมด 30 แคปซูล


เจจูวีต้า บีจิม แบบชงดื่ม


  • ตัวที่สอง เป็นซองแบบชงดื่ม ใช้ชงดื่มกับน้ำเปล่า ที่เป็นน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง 1 ซองชงได้ 150-200 มล. คนให้ละลายแล้วดื่มทันที เป็นประจำก่อนนอนค่ะ หรือดื่มได้เมื่อต้องการ วันละ 1 ครั้ง แบบชงดื่มนี้ช่วยระบบขับถ่าย และระบบย่อยอาหารเป็นปกติ ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ล้างไขมัน ยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ และเร่งสลายไขมันเก่า ในหนึ่งกล่องมี 15 ซองค่ะ ต้องบอกว่าเราชงตัวนี้แค่ซองเดียว ก็เห็นผลแล้วค่ะ เช้ามาคือโล่งมาก









คำเตือน

• เด็ก สตรีมีครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน

• สำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลักควรรับประทานก่อน

หรือหลังผลิตภัณฑ์นี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง

• ควรระวังในผู้ที่แพ้อาหารทะเล และผู้ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

• ผู้ที่มีสภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย ผลิตภัณฑ์นี้มีฟีนิลอะลานีน

• ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

• ผู้ที่มี BMI ไม่ถึง 23 ไม่แนะนำให้ทาน


ผลจากแอร์ได้ทดลองใช้ 1 สัปดาห์แรก พุงหายไปเยอะ 


ผลการทดลองใช้

น้ำหนักลดลงอาทิตย์แรก จาก 54.5 กิโลกรัม เหลือ 52.4 กิโลกรัม ลดลงไป 2.1 กิโลกรัม พุงหายไปเยอะเลยค่ะ ไม่รู้สึกอ่อนเพลียเลยนะคะ เพราะไม่ได้อดอาหาร  ทานอาหารครบสามมื้อ  แอร์ชอบแบบผงชงดื่มนะ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้กินเลยค่ะ กินง่าย รสชาติดีมาก มีรสหอมน้ำผึ้งมะนาว หวานหอม เค็มนิด ๆ เหมือนดื่มน้ำผลไม้เลยค่ะ เป็นอาหารเสริมลดน้ำหนักที่มีรสอร่อยมากค่ะ เพียงแค่ชงดื่มก่อนนอน ตอนเช้าคุณก็ตื่นมาเข้าห้องน้ำแบบสบายท้องเลย ออกแบบท้องโล่ง ไม่มีอาการท้องอืดเลยค่ะ

ผลจากการทดลองใช้

ผลจากการใช้ "เจจูวิต้า บีจิม "(Jejuvita B -JIM) 3 สัปดาห์ น้ำหนักแอร์ลดลงไปอีก 2.3 กิโลกรัมเหลือ 50.1กิโลกรัม โดยที่ไม่รู้สึกอ่อนเพลีย หรือมีอาการใด ๆ ที่เป็นผลจากการใช้อาหารเสริมลดน้ำหนัก" Jejuvita B -JIM "เลยค่ะ เป็นการลดน้ำหนักที่เรารู้สึกว่าปลอดภัย โดยที่ไม่ต้องอดอาหารเลย ยิ่งคนไหนไม่มีเวลาเข้ายิมต้องโดนตัวนี้เลยค่ะ  


สำหรับใครที่สนใจ Jejuvita B -JIM " เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ 60 กิโลกรัมขึ้นไป (หรือมี BMI เกิน 23 ขึ้นไปนะคะ ) สามารถเช็ค BMI ได้ที่นี่ ://bit.ly/301bR6E


แอร์ขอแนะนำช่องทางจัดจำหน่ายให้ค่ะ 

  • ร้านคาร์มาร์ท 

  • Watsons

  • SAVE DRUG

และช่องทางออนไลน์ค่ะ

Watsons Online

Karmart Online

Line: https://lin.ee/FP6dPAf


คำเตือน

• เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน

• ผู้ที่มีสภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย ผลิตภัณฑ์นี้มีฟีนิลอะลานีน

• ไม่ใช่อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก

• เพื่อป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้ ที่อาจเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ใยอาหารชนิดแห้ง

ควรรับประทานพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว

• อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค

• ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร: มีข้าวบาร์เลย์และเลซิตินจากถั่วเหลือง

อย่าลืมอ่านคำเตือนกันนะคะ



ติดตามผลงานอื่น ๆ บทความรีวิวต่าง ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ รับตัดต่อวิดีโอ สอนเทคนิคตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งรูป และออกแบบสติกเกอร์สินค้าต่าง ๆ 


เพจ

fanpage facebook

ยูทูบ

YouTube

B D 

Blockdit

Blogger 

Blogger

True

trueid

IG

Instagram


พูดคุยสอบถาม

Line :https://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

เฟซหลัก : Facebook profile

โทร : 094-830 6933 

gmail : janchai6933@gmail.com















วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ชวนเที่ยวอุทยานราชภักดิ์

 ชวนเที่ยวอุทยานราชภักดิ์


อุทยานราชภักดิ์

เมื่อวันนึงแอร์ได้มีโอกาสเดินทางไปจัดหวัดประจวบคีรีขันธ์  เป้าหมายคือจะไปเที่ยวหัวหินนั่นแหละ เมื่อไปถึงแล้วยังมีเวลาเหลือที่จะไปเที่ยวต่อได้อีก  จึงตั้งเป้าต่อว่าจะไปเที่ยวอุทยานราชภักดิ์ ให้ได้สักครั้ง เพราะได้เห็นข่าวทางทีวี และทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ แล้วทำให้อยากไปชมจริง ๆ สักครั้งในชีวิต ด้วยการเดินทางที่ไกลพอสมควรจากจังหวัดนครสวรรค์ถึงประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางหลายร้อยกิโล ขับรถหลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน การที่จะไปบ่อย ๆ คงเป็นไปไม่ได้ เมื่อมีโอกาสแล้วจึงไม่พลาดที่จะเข้าไปชมให้เป็นบุญตาอย่างแน่นอน


เพราะอะไรนะหรือจึงอยากมาชมอุทยานราชภักดิ์ ? ก็เพราะว่าที่นี่ไม่ได้เป็นแค่อุทยานอย่างเช่นทั่ว ๆ ไป ที่นี่เป็น พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ 7 พระองค์แห่งสยามของเรานั่นเองค่ะ  ที่นี่ดูยิ่งใหญ่ไปหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ มีพื้นที่อาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก  ด้านหน้าเป็นลานกว้าง  ด้านหลังเป็นภูเขา  และรูปหล่อที่เป็นอนุสาวรีย์ ก็ใหญ่มาก ๆ รูปหล่อของแต่ละพระองค์ดูยิ่งใหญ่สง่างามเป็นอย่างยิ่ง เห็นแล้วต้องขอชื่นชมทีมช่างทุกแขนง ที่สร้างสิ่งนี้ได้ยิ่งใหญ่สมบูรณ์จนน่าทึ่ง 


ป้ายทางเข้าอุทยาน



ที่กล่าวมาข้างต้น พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ มีด้วยกัน 7 พระองค์ มีทั้งหมดด้วยกันดังนี้ 

  1. พ่อขุนรามคำแหง (สมัยกรุงสุโขทัย)

  2. สมเด็จพระนเรศวร (สมัยกรุงศรีอยุธยา)

  3. สมเด็จพระนารายณ์ (สมัยกรุงศรีอยุธยา)

  4. สมเด็พระเจ้าตากสิน (สมัยกรุงธนบุรี) 

  5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) 

  6. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) 

  7. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) 




เมื่อเข้ามายืนชมใกล้ ๆ จะรู้สึกและสัมผัสได้ ถึงความยิ่งใหญ่ เข็มแข็ง แลดูน่าเกรงขาม สมกับบารมีของพระมหากษัตริย์ที่ปกบ้านป้องเมืองเมื่อครั้งอดีต  ด้วยขนาดของรูปหล่อสำริดที่มีขนาดความสูงถึง 13.9 เมตร แหงนมองคอตั้งบ่าเลยค่ะ ดูมีความแข็งแรงทนทานต่อดินฟ้าอากาศเป็นอย่างยิ่ง

ยืนชมใกล้ ๆ



ข้างหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นทะเล


ใครที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวชม แอร์ขอแนะนำเลยค่ะ หรือคนที่เคยไปมาแล้วกลับไปเที่ยวไปชื่นชมความยิ่งใหญ่ ทั้งงานออกแบบก่อสร้างรูปหล่อสำริดที่ใหญ่และสวยงามมาก ๆ และไปชมบารมีขององค์พระมหากษัตริย์ของชาติไทยเมื่อครั้งอดีต  จะเห็นได้ว่าทุกพระองค์เมื่อครั้งอดีตได้สร้างคุณูปการต่อบ้านเมืองของไทยเมื่อสมัยก่อร่างสร้างชาติ อย่างหาที่เปรียบมิได้ทุกพระองค์ค่ะ


สำหรับท่านที่จะเดินทางมาเที่ยวชม เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์เลยค่ะ หาไม่ยาก 

ที่ตั้งอุทยานราชภักดิ์  สวนสนประดิพัทธ์ ถนนเพชรเกษม ตำบล หนองแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เปิด 08.00-18.00 น หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของอุทยานได้เลยค่ะ 👇👇👇


http://www.rajabhaktipark.in.th/


แล้วเจอกันในบทความต่อไป หลากหลายเรื่องราว เล่าด้วยการเขียน  

ติดตามผลงานอื่น ๆ บทความรีวิวต่าง ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ รับตัดต่อวิดีโอ สอนเทคนิคตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งรูป และออกแบบสติกเกอร์สินค้าต่าง ๆ 


เพจ

fanpage facebook

ยูทูบ

YouTube

B D 

Blockdit

Blogger 

Blogger

True

https://cities.trueid.net/post/177916


พูดคุยสอบถาม

Line :https://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

เฟซหลัก : Facebook profile

โทร : 094-830 6933 

gmail : janchai6933@gmail.com

_____________________







วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ส้มตำรสแซ่บ

 ส้มตำทำเอง แซ่บสะเด็ด เผ็ดสะใจ 

ส้มตำทำเอง

ถ้าพูดถึงส้มตำแล้วเนี่ยคงไม่มีใครไม่รู้จัก และน้อยคนนักที่จะไม่เคยกิน เมื่อก่อนจะคิดว่าส้มตำคืออาหารของคนทางภาคอีสาน แต่เดี๋ยวนี้รับรองว่าตั้งแต่เหนือจรดใต้ทุกคนกินส้มตำเป็นหมด แล้วจะมีร้านส้มตำอยู่ทั่วไปหมดเช่นกัน แต่ร้านไหนจะตำได้แซ่บได้นัวขนาดไหน ก็อยู่ที่ฝีมือคนตำล่ะค่ะ  เพราะแม่ค้าทุกร้านก็จะมีสูตรเด็ดเคล็ดลับของแต่คน งัดฝีมือออกมาทำส้มตำให้อร่อยเพื่อมัดใจลูกค้าด้วยการบริการที่แซ่บถึงใจนั่นเอง  แต่แซ่บปากแม่ค้าแล้ว จะแซ่บถูกปากลูกค้าด้วยรึเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึงค่ะ 


ส้มตำมีหลายสูตรมีหลายเมนูจนเลือกกินกันไม่ถูกเลยแหละค่ะ อย่างเช่น ตำไทย ตำลาว ตำปู ตำปลาร้า ตำมั่ว ตำซั่ว นี่เป็นบางส่วนที่เอ่ยมาค่ะ มีเยอะจน มีการหยิบยกขึ้นมาแต่งเป็นเพลงก็มีค่ะ อย่างเช่นเพลงส้มตำ ที่แต่งหรือประพันธ์ขึ้นโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ขับร้องโดยพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในสมัยนั้น และเป็นบทเพลงเกี่ยวกับอาหารที่ฟังแล้วอยากชิมเมนูส้มตำ ทุกเมนูเลยเชียวค่ะ และก็เพิ่งได้รู้ว่าชื่อเมนูส้มตำมีเมนูที่เราไม่ค้นหูอยู่ในเพลงนี้ด้วย อย่างตำรามานี่ก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ รสชาติเป็นอย่างไรแอร์ก็ยังไม่เคยชิมจนป่านนี้ค่ะ คงต้องลองหามาตำชิมดูค่ะ 


จะเห็นได้ว่าอาหารประเภทส้มตำนั้นได้กลายเป็นเมนูสำคัญประจำชาติไทยไปแล้วค่ะ ด้วยความที่รสชาติแซ่บแบบหลากหลาย และสีสันที่ชวนให้กลืนน้ำลายทันทีได้เห็น จึงดังไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนา ขนาดชาวต่างชาติ อย่างฝรั่งต่างแดนที่พอได้ชิมแล้วยังหันมาติดใจในความแซ่บของส้มตำเลยค่ะ  


บทความนี้ที่แอร์ได้หยิบยกเรื่องส้มตำมาเกริ่นไว้ เพราะแอร์ก็เป็นคนนึงที่ชอบกินส้มตำ และชอบทำกินเองด้วยค่ะ การทำกินเองมันดีตรงที่ เราจะกินรสชาติแบบไหน เราสามารถปรุงใส่ไปได้เลย หรืออันไหนที่เราไม่ชอบเราก็ไม่ใส่ การทำบ่อย ๆ ก็จะรู้ว่าใส่อะไรไปเท่าไหร่จึงจะพอดี เรียกว่ามีสูตรของตัวเองว่างั้นเถอะ วันนี้จึงจะมาบอกวิธีทำ และสูตรส้มตำที่แอร์ทำกินเอง แล้วแซ่บถูกปากมาแบ่งปันกันค่ะ  (สูตรส้มตำนี้แอร์ตำกินเองจึงเป็นรสชาติที่แอร์ชอบ ถ้าใครชอบรสมากน้อยกว่านี้ ปรับเอาตามความชอบได้ค่ะ) มาค่ะเรามาทำกันเลย

ส้มตำรสแซ่บ



วัตถุดิบ และ เครื่องปรุง 


  1. มะละกอดิบสับเป็นเส้นเล็ก ๆ แอร์จะไม่ใช้ที่ขูดจะใช้วิธีสับเอาค่ะ

  2. ถั่วฝักยาว

  3. มะเขือเทศใช้แบบลูกเล็ก

  4. พริกชี้ฟ้าแห้ง 

  5. กระเทียมไทย

  6. กุ้งแห้ง

  7. มะนาว

  8. น้ำตาลปี๊บ

  9. ถั่วลิสงคั่ว หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด หรืออบให้สุก

  10. น้ำปลาร้าปรุงสุก

  11. ผงนัว จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ 


อุปกรณ์ที่ใช้ตำส้มตำ

  • ครก 

  • สาก

  • จานและช้อนสำหรับใส่ส้มตำ

วิธีทำส้มตำรสแซ่บ


  1. นำพริกแห้ง 6 เม็ดลงตำก่อน แล้วนำกระเทียมลงตาม 5-6 กลีบ 

  2. ใส่ถั่วฝักยาว สัก 1-2 ฝัก หั่นท่อนลงตำพอบุบ ใส่กุ้งแห้งลงไป

  3. เติมน้ำตาลครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ถ้าไม่ชอบเปรี้ยวมาให้ลดลงมา น้ำปลาร้าปรุงสุก 1 ช้อนโต๊ะ ผงนัวครึ่งช้อนชา ตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน " แอบบอกน้ำปลาร้าปรุงสุก แอร์ใช้ยี่ห้อ แซ่บไมค์ค่ะ ใส่แล้วแซ่บนัวแซ่บเวอร์ " ถ้าสายส้มตำปลาร้านี่ขอแนะเลยค่ะ ใส่แล้วรสชาติจะนัวขึ้น จนรู้สึกได้จริง ๆ ค่ะ  สั่งในออนไลน์ก็สะดวกดีค่ะ สั่งในลิงก์นี้เลยค่ะ 

https://raka.is/r/xPGY


เครื่องความแซ่บของส้มตำ

ส้มตำใส่น้ำปลาร้าแซ่บไมค์


  1. เมื่อเข้ากันแล้ว ใส่มะเขือเทศตามลงไปคลุก ใส่ทีหลังเพราะมะเขือเทศจะได้ไม่เละจนเกินไป 

  2. เมื่อชิมรสได้ที่แล้ว ใส่มะละกอสับ ที่เตรียมไว้ลงไปตำคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที  ชิมได้ที่แล้ว ตักใส่จาน โรยหน้าด้วย ถั่วลิสงคั่ว หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 

ง่าย ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ส้มตำรสแซ่บถึงใจเลยค่ะ ส้มตำครกนี้ จะได้รสเผ็ดนำ เค็มเปรี้ยว หวานนิดหน่อย หอมนัว ด้วยรสปลาร้าปรุงสุก จัดว่าเด็ด จนมีคนชมว่าแซ่บเลยจ้า แอร์ชอบกินกับเม็ดมะม่วงมากกว่าถั่วค่ะ เพราะมีความมันความหวานอร่อยเข้ากันดีมาก แต่ราคาก็จะแพงกว่าเช่นกันค่ะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเลือกใส่เอาตามที่มีอยู่ในครัวได้เลย



ส้มตำสูตรแซ่บนัว


ส้มตำ อาหารรสชาติจัดจ้าน เผ็ดนัวระรัวลิ้น อยู่ภาคไหนของไทยก็หากินได้ตามร้านที่มีอยู่ทั่วไป หรือจะทำกินเองก็ได้แซ่บหลายไม่ต่างกัน ด้วยความมากมายของเมนูส้มตำ แอร์จึงขอยกให้เป็นเมนู signature ของอาหารไทยไปอีกอย่างเลยค่ะ ถ้าจะให้ดีต้องมีข้าวเหนียวและไก่ย่างรสเด็ดที่เป็นของคู่กัน  แล้วมื้อนั้นคุณจะแซ่บมิรู้ลืมเลยทีเดียวเชียว 

อยากรู้ว่าน้ำปลาร้าแซ่บไมค์ อร่อยอย่างไรก็คลิกซื้อเลยค่ 👇👇👇👇👇👇👇👇👇

https://raka.is/r/xPGY


หรือต้องการเม็ดมะม่วงหิมพานต์คุณภาพดีราคาถูกก็สั่งในลิงก์นี้เลยค่ะ 
👇👇👇👇👇

แล้วเจอกันในบทความต่อไป หลากหลายเรื่องราว เล่าด้วยการเขียน  

ติดตามผลงานอื่น ๆ บทความรีวิวต่าง ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ รับตัดต่อวิดีโอ สอนเทคนิคตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งรูป และออกแบบสติกเกอร์สินค้าต่าง ๆ 


เพจ

fanpage facebook

ยูทูบ

YouTube

B D 

Blockdit

Blogger 

Blogger

True

https://cities.trueid.net/post/177916


พูดคุยสอบถาม

Line :https://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

เฟซหลัก : Facebook profile

โทร : 094-830 6933 

gmail : janchai6933@gmail.com

_____________________



วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เที่ยวรถไฟใต้ดิน

 เผชิญชะตา เฮฮานั่งรถไฟใต้ดินที่หัวลำโพงด้วยตัวเองครั้งแรก 

ทางลอดใต้ดินของสถานีรถไฟ

ด้วยความที่แอร์เป็นคนต่างจังหวัดและจะใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับเส้นทางในกรุงเทพ เมื่อมีโอกาสได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ จึงงงและสับสนกับเส้นทางเอาการอยู่ค่ะ เมื่อจะไปทำธุระต่อที่ไหนจึงมีความคิดที่จะเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งเราจะฝากรถไว้กับทางโรงแรมที่เราไปพักไว้ก่อน  ด้วยเพราะก็ไม่อยากรถติดถ้าใช้บริการแท็กซี่ สบายก็จริงแต่รถก็ติด และค่าแท็กซี่ก็แพงเอาเรื่องอยู่ถ้าไปไกล ๆ และอีกอย่างอยากนั่งรถไฟใต้ดินด้วยแหละ เพราะมันถึงเร็ว รถไม่ติด แต่มันติดตรงที่แอร์ ไม่คล่องในการใช้บริการรถไฟใต้ดินนี่แหละ 555 

แต่บ้านนอกเข้ากรุงอย่างแอร์ซะอย่าง ไปมันแบบงง ๆ นี่แหละ อาศัยถามเจ้าหน้าที่บ้าง เพื่อนร่วมเดินทางบ้าง อ่านป้ายบ้าง ฟังจากเสียง operator  ที่เขาประกาศบ้าง มั่วไปมั่วมา ถูกบ้างผิดบ้าง ถึงที่หมายจนได้ แต่กว่าจะถึงก็ทำเอาตื่นเต้นหัวใจแทบหลุดออกมาข้างนอกเหมือนกัน เพราะบางช่วงของสถานีใต้ดิน เดินอยู่คนเดียว เงียบและน่ากลัวอยู่ไม่ใช่น้อยสำหรับคนไม่คุ้นชิน สถานที่แบบนั้นถึงจะรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่เยอะก็ตาม แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่ามั้ยคะ แหม ! ก็ผู้หญิงสวย อวบอ้วนอย่างป้าแอร์ไปเดินอยู่ทางใต้ดินคนเดียวนี่เนาะ ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา 

ตั๋วหรือชิปสำหรับขึ้นรถไฟ


การขึ้นรถไฟก็เริ่มจากเราต้องรู้ที่หมายก่อนว่าจะไปไหน พอรู้แล้วเราก็ไปซื้อตั๋วค่ะ อ่ะ ๆ การซื้อตั๋วก็ทำอาการ งง ให้กับแอร์ได้อีกเพราะซื้อตั๋วไม่ยักจะได้เป็นตั๋วอย่างที่เข้าใจ แต่ได้เป็นชิปกลม ๆ สีดำ ๆ เท่ากันเหรียญ 5 บาทของไทย ได้มาแล้วมายืนจด ๆ จ้อง ๆ ดูคนอื่นใช้ก่อน ว่าเค้าใช้ยังไงกัน ทำเนียน ๆ ไม่ให้ใครรู้ว่าใช้ไม่เป็น 555 เอาน่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว ทำตามคนข้างหน้าเลย อัยย่ะ ! ง่ายจังแค่เอาชิปรูดผ่านเครื่องสแกน  ประตูทางผ่านเข้าไปใช้บริการรถไฟใต้ดินก็เปิดออก วู้ ! กลัวทำไม (อุ้ยตาย ! ลืมตัวก็กลัวแหละ) บ้านนอกเข้ากรุงอ่ะนะ 


เอาละซิเมื่อผ่านเข้ามาก็ต้องเดินไปหาชานชาลาที่จะต้องขึ้นรถไฟ เดินไป ๆ ๆ ทำไมมันไกลและโล่งจัง ไม่ค่อยมีผู้คนเดินเลย เริ่มใจคอไม่ดีเรามาถูกเปล่าน้อ แต่ก็เดินตามป้ายและลูกศรบอกทางไปเรื่อย ๆ แล้วในที่สุดก็เจอสถานีที่จะต้องขึ้นรถไฟ เพื่อที่จะไปลงอีกสถานี เอาละวุ้ย เค้ารอเราก็รอ เค้าขึ้นเราก็ขึ้น 555 ตามเค้าตลอด และก็คอยฟังเสียงสวย ๆ ที่บอกทุกสถานีที่จอด ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนคงจะแน่นมาก แต่ตอนนี้ขึ้นลงสบาย โล่ง ๆ เสียงตามสายบอกถึงสถานีที่จะลง เราก็เตรียมตัวลงตามเค้าอีกและ ก็มันมีคนลงสถานีเดียวกับเรานี่เนาะ 

ใช้เหรียญนี้เพื่อสแกนออก

ลงมาแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องใช้งานเจ้าเหรียญที่กุมชะตาชีวิตเราไว้อีกครั้ง  เพราะถ้าระหว่างทางเราทำเหรียญ หรือชิปอันนี้หาย เราต้องออกไม่ได้แน่เลย เพราะเราต้องเอาเจ้าชิปอันนี้มาผ่านการสแกน โดยการหยอดลงไปในช่องคล้ายกับการหยอดออมสินอีกครั้งเพื่อเปิดทางออก นั่นน่ะ ! แล้วจะไม่ให้เรียกเหรียญกุมชะตาชีวิตได้ยังไงละคะ เมื่อออกได้แล้วก็เดินต่อค่ะ เพื่อหาทางขึ้นไปข้างบน ถาม ๆ แล้วก็เดินตาม ๆ เค้าไป เย้ ! ขึ้นมาข้างบนได้แล้ว และก็ถึงที่หมายที่เราจะไปด้วย ที่หมายที่ว่าก็คือ คลินิกจัดฟันคร้าาา ย้ายตามหมอมากรุงเทพ เฮ้อ ! เลยได้กลายเป็นที่มา การหัดขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเองครั้งแรก ของมนุษย์ป้าอย่างแอร์ 


การเดินไปหาชานชาลาที่จะขึ้นรถไฟ และการเดินหาทางขึ้นตอนออกจากรถไฟ ใช้เวลานานกว่าตอนรถไฟวิ่งอีกค่ะ รถไฟฟ้าใต้ดินใช้เวลาต่อสถานีนึงไปยังอีกสถานีนึงแป็บเดียวเองค่ะ ไม่มีรถติด ไม่มีฝุ่นควันกวนใจ ไม่มีความหวาดเสียวจากการขับรถแซงซ้ายแซงขวา ที่บนท้องถนน และอีกอย่าง ค่าโดยสารไม่แพงค่ะ รวดเร็วทันใจไร้รถติด ชีวิตก็มีเวลาชิลได้อีก ลองไปใช้บริการกันเยอะ ๆ ค่ะเพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำรถยนต์กันนะคร้าาา👍👍👍 


แล้วเจอกันในบทความต่อไป หลากหลายเรื่องราว เล่าด้วยการเขียน  

ติดตามผลงานอื่น ๆ บทความรีวิวต่าง ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ รับตัดต่อวิดีโอ สอนเทคนิคตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งรูป และออกแบบสติกเกอร์สินค้าต่าง ๆ 


เพจ

fanpage facebook

ยูทูบ

YouTube

B D 

Blockdit

Blogger 

Blogger

True

https://cities.trueid.net/post/177916


พูดคุยสอบถาม

Line :https://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

เฟซหลัก : Facebook profile

โทร : 094-830 6933 

gmail : janchai6933@gmail.com

_____________________

รีวิว พรีมาแคป-1000

เกิดเป็นหญิงแท้จริงนั้นลำบาก คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอยู่มากทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะวันนั้นของเดือน ทั้งหงุดหงิด ทั้งเลอะเทอะเฉอะแฉะ ไม่สบายตัว ถ้า...