รีวิวครีมรองพื้นไอเท็มเด็ดที่ต้องมี

 3 ครีมรองพื้นที่ขายดีติดอันดับใน shopee ที่ on air อยากแนะนำ 

ความสวยมีสไตล์ เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ปรารถนาโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเรา ๆ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งต้องดูดี ต้องหมั่นเติมเสน่ห์ให้ตัวเองอยู่บ่อย ๆ ไม่ปล่อยให้ร่วงโรยไปตามวัย เป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นประจำเพื่อความมีชีวิตชีวาของตัวเองและคนรอบข้างนั่นเองค่ะ เพราะด้วยวัยที่มากขึ้น ความเปล่งปลั่งมันก็ลดลง ทั้งผิวกายและผิวหน้า ความชุ่มชื้นความเรียบเนียน ก็ลดน้อยลงโดยเฉพาะผิวหน้า การแต่งหน้าหรือการทาแป้งธรรมดาอาจไม่เพียงพอต่อการปกปิดริ้วรอย ตัว on air เองก็เป็นคนนึงที่ต้องแต่งหน้าทุกครั้งที่จะออกไปนอกบ้าน  เพราะทำใจยอมรับตัวเองไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องปล่อยหน้าอันซีดเซียวไร้สีสันออกไปแบบนั้น  

 ยิ่งวัยนี้ด้วยแล้ว ผิวเรียบเนียนอมชมพูคงไม่กลับมาให้เห็นแล้วค่ะ นอกเสียจากการแต่งแต้มลงบนผิวหน้าของเราเอง และในการแต่งหน้าของ on air สิ่งนึงที่ให้ความสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้เครื่องสำอางตัวอื่นเลย นั่นก็คือครีมรองพื้นค่ะ เพราะมันคือฐานสำคัญในการลงเมคอัพตัวอื่น ๆ ที่เราจะนำมาเติมเพิ่มบนใบหน้าของเรานั่นเองค่ะ จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้มากสักหน่อย ต้องคุมมันได้ดี ไม่หนาเป็นคราบ ไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน ใช้แล้วหน้าต้องเนียนกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับสีผิวกาย หลัก ๆ ในการเลือกครีมรองพื้นของ on air มีประมาณนี้ค่ะ  

On air จึงมาแนะนำครีมรองพื้นที่ใช้ดีและมีจำหน่ายทั้งออฟไลน์และใน แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น shopee  lazada ค่ะ 

ครีมตัวที่ 1 

https://raka.is/r/8kEb

ซื้อสินค้าในลิงก์นี้☝️☝️☝️

ครีมรองพื้น REVLON (เรฟลอน) ค่ะ เป็นรุ่นที่ขายดีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ปกปิดริ้วรอยได้ดี ติดทนนานไม่ต้องเติมระหว่างวัน ทาแล้วบางเบารู้สึกสบายผิวหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียน อำพรางรูขุมขนได้ดี คุมมันได้ดีสำหรับผิวหน้ามัน ใช้ง่ายด้วยขวดหัวปั้มแบบปลายนิ้วกด  มี 4 สีให้เลือกใช้ตามสีผิวของแต่ละคน  

150 buff : สำหรับผิวขาวตามธรรมชาติ

180 sand beige สำหรับผิวสุขภาพดี จะเข้มขึ้นมาอีกระดับ 

200 nude  สำหรับผิวชมพูเข้ม เหมาะกับการแต่งหน้าโทนเหลืองหรือโทนสีเนื้อ

220 naturl beige  สำหรับสีผิวเข้ม ช่วยให้นวลเนียนเป็นธรรมชาติ 

ขนาด 30 ml และมี spf 20 ราคาเพียง 299 เท่านั้น * ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง

ครีมตัวที่ 2 

สั่งสินค้าในลิงก์นี้ 👇👇👇

https://raka.is/r/NXAR

ครีมรองพื้น maybelline (เมย์เบลลีน ฟิต มีแมท แอนด์ พอร์เลส) เป็นครีมรองพื้นที่น่าใช้ที่สุดอีกตัวนึง มีให้เลือกถึง 20 เฉดสี เพื่อให้เลือกใช้ได้พอดีกับสีผิวของแต่ละคน เนื้อแมทสัมผัสบางเบา ช่วยอำพรางรูขุมขน ทำให้ผิวแมทเนียนใส ปกปิดเรียบเนียนเป็นธรรมชาติอยู่ได้นานถึง 12 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผิวธรรมดาและผิวมัน พร้อมด้วย SPF 22 มีขนาด 30 ML เพียงแต้มลงบนผิวหน้าแล้วเกลี่ยให้ทั่วด้วยฟองน้ำ หรือปลายนิ้วมือ เท่านี้ก็จะได้ผิวเนียนสวยไว้ลงสีสันของเมคอัพตัวต่อไปแล้วค่ะ สนนราคา 239 บาทเท่านั้น * ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง

ครีมตัวที่ 3

สั่งสินค้าในลิงก์นี้ 👇👇👇

https://raka.is/r/raJQ

ครีมรองพื้น better skin by 4u2 (โฟรยูทู)  มีคุณสมบัติ ปกปิดได้ดี ผิวหน้าเนียนเป็นธรรมชาติ เบาสบายไม่รู้สึกหนักผิว ช่วยปกปิดรูขุมขน รอยด่างดำ ได้เนียนสนิท ผิว แมทสวย ไม่ต้องลงแป้งทับก็ได้ ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี สามารทาทับเพื่อเพิ่มการปกปิด ได้ตามความต้องการ โดยไม่เป็นคราบ สวยท้าแดด ด้วย SPF 50 PA +++ ป้องกัน U VA/ UVB ช่วยลดสาเหตุการเกิดฝ้าได้อีก เป็นไอเท็มเด็ดที่สาว ๆ ต้องมี และใช้ได้ทุกวันค่ะ  มีให้เลือกถึง 4 เฉดสีไม่ว่าคุณสาว ๆ จะมีผิวโทนไหนก็สามารถใช้แล้วสวยได้ค่ะ 

01 PORCELAIN (สำหรับผิวขาวอมชมพู) 

02 NATURAL BEIGE (สำหรับผิวขาวเหลือง) 

03 WARM BEIGE (สำหรับผิวสองสี) 

04 TAN ( สำหรับผิวสีแทน ผิวเข้ม) 

มีขนาด 30 ML ราคาสบายกระเป๋า เพียงหลักร้อย ตั้งแต่ 259 - 599 ต่อขวด 

ตัวนี้ใช้ดีจริงขอยืนยันความสวยเนียนเป็นธรรมชาติค่ะเพราะใช้ดีจึงบอกต่อ และอยากบอกสาว ๆ ควรมีไว้เป็นไอเท็มบนโต๊ะเครื่องแป้ง 

เป็นอย่างไรบ้างคะสาว ๆ ครีมรองพื้นที่ on air มาแนะนำให้เลือกตัดสินใจ เลือกใช้ได้ตามความต้องการสวยกันเลยทีเดียว ทั้ง Revlon  Maybelline  Better skin by 4u2  สามแบรนด์เด็ดที่ควรจะมี ราคาไม่แพงคุณภาพคุ้มเวอร์  หรือจะจัดมาทั้งสามแบรนด์กันเลยก็ดีงามคร้าาาา

On air แชร์รีวิวจะกลับมาเจอกันใหม่กับการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ทั้งความสวยความงาม ไลฟ์สไตล์ รีวิว ร้านอาหาร สถานที่ต่าง ๆ ทีน่าสนใจ 

รับตัดต่อวีดีโอ ตกแต่งภาพ ออกแบบป้าย สติกเกอร์สินค้า รับเขียนบทความรีวิว 

ทักทายสอบถาม

Line :

://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

Facebook:https://www.facebook.com/profile.php?id=100001454636104

___________________

นาฬิกาชีวิต

 

นาฬิกาชีวิตของผู้เฒ่าวัยเกือบเก้าสิบ

นาฬิกาชีวิต

 ตารางเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะกิจกรรมหรือการดำเนินชีวิตต่างกันนั่นเองค่ะ ถึงแม้เวลาของพระอาทิตย์ขึ้น กับ พระอาทิตย์ตก จะเท่ากันก็ตาม บทความนี้ผู้เขียนจะขอหยิบยกตารางเวลานาฬิกาชีวิต ของชายสูงวัยท่านนึงมาให้คุณผู้อ่าน ได้ลองอ่านดูไว้เพื่อเป็นแนวทางในการจัดตารางเวลาให้ตัวเอง เพื่อวันนึงเมื่ออายุมากขึ้น จะทำอย่างไรให้มีชีวิตยืนยาวและแข็งแรง ไม่เป็นภาระให้กับลูกหลานและคนรอบข้าง  ชายสูงวัยที่จะเอ่ยนี่คือ พ่อ ของผู้เขียนเอง ซึ่งตอนนี้ ท่านมีอายุถึง 86 ปีแล้วค่ะ ด้วยวัยขนาดนี้ ท่านยังทำงานหนักได้สบายเลย ยังกินได้นอนหลับ ไม่หลงไม่ลืม หู ตา ยังใช้การได้ปกติ ถ้าเทียบกับคนในวัยเดียวกันยังถือว่าแข็งแรงกว่าคนอื่นเยอะมาก ผู้เขียนจึงได้นำตารางเวลาในแต่ละวันของพ่อมาบอกต่อ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไปค่ะ  เริ่มกันเลยค่ะ 

1. ตื่นนอน 6 :00 น เพื่อเข้าห้องน้ำขับถ่ายของเสีย พ่อจะตื่นและเข้าห้องน้ำเวลานี้ทุกวัน

2. 6:30 น ล้างหน้าแปลงฟัน เสร็จแล้ว ให้อาหารแมว พ่อจะรักแมว และชอบนั่งเฝ้าแมวกินอาหาร จะสังเกตว่าตัวไหนกินได้มากได้น้อย ถ้าแมวกินเก่งดูท่านจะมีความสุข (สัตว์เลี้ยงช่วยให้ผู้สูงอายุอารมณ์ดี มีความสุข) จะมีแมวตัวโปรดด้วยนะ

3. 7:00 น จะลงบ้านเพื่อไปรดน้ำต้นไม้ หรือรดน้ำผักรอบบ้าน  บางครั้งก็ดายหญ้ารอบ ๆ บ้าน พ่อจะทำงานแบบนี้ในตอนเช้าของทุกวัน ผู้เขียนคิดว่ามันคือการออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายอย่างนึงของพ่อ และอีกอย่างได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในตอนเช้า ๆ ด้วย

   

   ทำสวนออกกำลังกายตอนเช้า

   
   

4. 8:30-9:00 น พ่อจะขึ้นมากินข้าวเช้าในเวลานี้ทุกวัน จะเห็นได้ว่าพ่อกินข้าวตรงเวลา เพราะไม่ต้องไปทำงานที่ไหนแล้ว   เวลากินข้าวเช้า จึงตรงเวลาทุกวัน

5. 10:00 น เป็นเวลาพักผ่อน พ่อจะนอนกลางวันในเวลานี้ไปจนถึงเที่ยง 

6. 12:30 น จะกินข้าวมื้อกลางวัน จะกินเวลานี้ทุกวัน และใช้เวลานานสักหน่อย เพราะเป็นผู้สูงอายุ ที่เจริญอาหารมาก อร่อยทุกอย่างแบบไม่มีบ่น พ่อพูดไว้เสมอ กินได้ไม่ตายหรอก (คงจะจริงญาติ ๆ ที่ตายไปเพราะกินไม่ได้จริงแหละ) 

7. 14:00 - 16:30 น เป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนอีกช่วงนึง ถ้ามีญาติ หรือ หลาน ๆ มาเที่ยวหา ก็จะใช้เวลานี้นั่งคุย จนกว่าญาติจะกลับ  แต่ถ้าไม่มีใครมา พ่อก็จะนอนเล่นพักผ่อนอีกรอบ จะเห็นได้ว่าพ่อจะใช้เวลาไปกับการนอนช่วงกลางวันเยอะสักหน่อย แต่ด้วยวัยขนาดนี้แล้ว คงไม่ไปทำงานหนักแล้วหละ 

8. 16:30-17:30 น เป็นเวลาที่พ่อต้องรดผักรอบบ้านในส่วนที่ยังไม่ได้รดตอนเช้าอีกครั้ง พ่อจะใช้ปั้มน้ำในการดึงน้ำจากบ่อ มารดต้นไม้ ด้วยการลากสายยาง ฉีดไปเรื่อย ๆ เหมือนจะเพลิดเพลิน เพราะชอบบีบปลายสายยางให้เป็นเหมือนละอองฝนเวลารดน้ำต้นไม้

   

   รดน้ำผัก

   
   

9. 17:30 - 18:00 น ช่วงนี้จะรีบมาอาบน้ำ กินข้าวมื้อเย็น ให้เสร็จก่อนหกโมงเย็น  เพราะไม่ชอบให้ยุงกัดตอนกินข้าว และอีกอย่างต้องรีบให้เสร็จก่อนที่รายการทีวีที่ชอบดู จะออกอากาศ 

10. 18:00 - 22:00 น ตั้งแต่หกโมงเย็นไป พ่อจะต้องมาดูรายการประกวดร้องเพลงทางช่อง 31 ในทีวี สองคนกับแม่ ถ้าวันไหนพลาดจะบ่นเสียดาย เพราะบางคนติดตามมาตั้งแต่วันแรกว่างั้น 

11. หลังจาก สี่ทุ่ม ของทุกวัน พ่อจะเข้านอนยาวไปจนถึงเช้าเลย จะเป็นคนหลับง่าย จะไม่ตื่นตอนดึก 

จะเห็นได้ว่าพ่อของผู้เขียนใช้เวลากับการนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมงต่อวัน ไม่แน่ใจว่าเป็นผลดีกับผู้สูงอายุในวัยขนาดนี้มั้ย  แต่เท่าที่สังเกต พ่อไม่มีความเครียดเรื่องปัญหาหนี้สินเช่นครอบครัวอื่น ไม่มีปัญหาเรื่องการไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว มาตั้งแต่เข้าสู่วัยเกษียณ คงวางแผนมาดีว่าแก่แล้วจะใช้ชีวิตแบบไหน การใช้เวลาในแต่ละวันของพ่อจึงดำเนินไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุ 86 ปีแล้วยังแข็งแรง ความจำดีเลิศ สายตายังมองเห็น หูยังได้ยิน ยังมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม เมื่อได้เล่นกับแมวตัวโปรดและ หลาน ๆ 

บ้านไหนมีผู้สูงอายุ หรือท่านไหนที่กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณ ลองนำตารางเวลา หรือนาฬิกาชีวิต ของพ่อผู้เขียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดูนะคะ จะได้มีชีวิตยืนยาว แข็งแรง ไม่เป็นภาระใคร และเป็นส่วนสร้างความสุขให้สมาชิกในครอบครัวด้วยค่ะ 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงจุดนี้ แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไป  หรือติดตามผลงานอื่นได้ตามลิงก์สีฟ้าค่ะ 👇👇👇👇👇👇👇👇👇

fanpage facebook

YouTube

Blockdit

Blogger

ทักทายสอบถาม

Line

Facebook

_____________________

หัดทำเค้กช็อกโกแลตครั้งแรกในชีวิต ตอนที่ 3

 

เค้กช็อกโกแลต

ช็อคโกแลต ใคร ๆ ก็ชอบ ไม่ว่าจะเป็นท๊อฟฟี่ช็อกโกแลต เวเฟอร์ช็อกโกแลต บราวนี่ที่ทำจากช็อกโกแลต และเค้กช็อกโกแลต หรืออะไรก็ตามที่ที่นำช็อกโกแลตมาเป็นส่วนประกอบ มักจะเป็นที่ชื่นชอบเสมอ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่  ตัวผู้เขียนเองก็เป็นคนที่ชอบขนมที่ทำจากช็อกโกแลต หรือโกโก้เช่นกันค่ะ มักซื้อหามากินเป็นประจำ ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ ก็ได้แต่คิดว่าคงทำยาก และตัวช็อกโกแลตคงจะมีราคาแพง เมื่อนำมาเป็นส่วนผสมจึงทำให้ราคาขนมแพงตาม แต่เก็บความสงสัยไว้ตลอด ว่าถ้าหัดทำเองจะทำยากมั้ยนะ จะทำได้มั้ยนะ ระหว่างนี้ก็ซื้อกินไปพลาง ๆ ก่อน 555

จนเมื่อตัวเองได้มีโอกาสได้เข้าเรียนทำขนมกับกลุ่มสอนทำขนมแบบง่าย ๆ แต่อร่อยของครูน้องนุช ที่เป็นผู้สอน ที่ตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาสำหรับคนที่หัดทำขนม และไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำขนมเลย โอ้ว ! มันช่างเหมาะกับตัวผู้เขียนจริง ๆ เพราะไม่มีความรู้เรื่องเบเกอรี่เลยแม้แต่นิดเดียว กลุ่มนี้ชื่อ มาทำขนมกันเถอะ  การสอนเป็นไปอย่างเข้มข้น ต้องทำขนมส่งการบ้านด้วย ใครไม่ส่งการบ้าน ไม่ต้องไปเอาสูตรขนมตัวต่อไป มันดีตรงมีเวลากำหนดและให้สูตร และสอนละเอียดอย่างจริงจังนี่แหละ เหมือนโดนบังคับไปในตัวด้วย ไม่งั้นก็คงเอื่อยเฉื่อยไปเรื่อย ไม่ยอมลงมือปฏิบัติซักที อยากไปต่อขนมตัวต่อไปก็ต้องลงมือ 555

ขนมตัวแรกคือเค้กส้มส่งการบ้านแล้วทุกคนในกลุ่มที่ทำตามสูตรอร่อยทุกคน  แฮะ ๆ แต่ของผู้เขียนไม่อร่อยเลย 555 แต่มันคือก้าวแรกของการหัดทำขนมเค้ก อะอะ ถึงจะไม่อร่อยแต่ก็ผ่านมาถึงตัวที่สองนะจ๊ะ ขนมตัวที่สองที่จะได้หัดทำคือ เค้กช็อกโกแลต ว้าว ! ถูกใจเลยค่ะเพราะชอบกินช็อกโกแลตอยู่แล้วด้วย จัดการเลยสิคะรออะไร อุปกรณ์และวัตถุดิบมีอยู่แล้วเพราะซื้อมาเยอะ มา ๆ เรามาเริ่มทำเค้กช็อกโกแลตไปพร้อมกันเลยค่ะ ตามสูตรนี้เลยนะ 

ส่วนผสมส่วนที่ 1 

1. แป้งเค้ก 100 กรัม

2. น้ำตาลทราย 35 กรัม

3. ผงฟู 1 ช้อนชา

4. นมข้นจืด 90 กรัม

5. ไข่แดงเบอร์ 1 = 3 ฟอง

6. น้ำมันรำข้าว 80 กรัม

7. น้ำสะอาด 30 กรัม 

8. ผงโกโก้ 20 กรัม

9. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

ส่วนผสม ส่วนที่ 2 

1. น้ำตาลทรายขาว 35 กรัม

2. ไข่ขาวเบอร์ 1 = 3 ฟอง

3. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา (น้ำมะนาว หรือน้ำเลม่อน) 

เรามาเริ่มทำกันเลย เริ่มจากส่วนแรกก่อน 

1. นำแป้ง ผงฟู น้ำตาล มาร่อนในชามผสม 

2. ใส่นมจืดลงไป ใส่ไข่แดงลงไป เติมน้ำสะอาดลงไป

3. ผสมให้เข้ากัน แล้วใช้เครื่องปั่นมือที่เป็นแบบใช้ไฟฟ้าปั่นต่อ  อะ ๆ รอบนี้เค้ามีที่ปั่นผสมอาหารมือถือแบบใช้ไฟฟ้าด้วยนะ เตรียมสั่งซื้อมาจาก shopee เลยแหละเพราะคิดว่าใช้ตะกร้อมือตีไม่ไหวแน่ ๆ  เพราะครั้งก่อนตีจนปวดแขนก็ไม่สำเร็จ

4. ค่อย ๆ เติมน้ำมันให้ได้ 3 ครั้งแล้วปั่นต่อให้เข้ากัน 

5. ใส่ผงโกโก้ลงไปปั่นต่อ เบกกิ้งโซดาไม่มี เลยไม่ได้ใส่  ปั่นต่อไปอีก  จนเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วพักไว้ก่อน มาทำส่วนที่ 2 ต่อ 

วิธีทำส่วนที่ 2 

1. นำไข่ขาวที่แยกไว้มาตีให้ขึ้น 

2. เติมน้ำตาลแล้วปั่นต่อ เติมน้ำมะนาวลงไป ปั่นต่อจนเป็นเนื้อครีมขาวข้น 

3. เมื่อได้ที่แล้วให้นำ ไข่ขาวที่ตีไว้แล้วผสมกับส่วนที่ 1 ที่ตีพักไว้ ให้เข้ากัน 

4. เมื่อเข้ากันดีแล้ว นำไปหยอดใส่ถ้วยฟอยล์ แล้วนำไปอบ ตั้งเวลาและความร้อนให้พอดี แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ 

เค้กช็อกโกแลตที่อบเสร็จแล้ว

อัยย่ะ ! เหมือนจะง่ายนะเนี่ยตามที่เขียนมาข้างต้น ผู้เขียนขอบอกเลย กว่าจะเสร็จขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรง่ายสำหรับมือใหม่เลยค่ะ เช่นขั้นตอนการตีไข่ขาวของผู้เขียนเนี่ย อลหม่านมากค่ะ รอบแรกที่ตอกไข่แยกก็ดันทำไข่แดงแตกลงไปนิดนึง แล้วตอนตีก็เอาน้ำตาลลงไปผสมพร้อมเลย ตียังไงก็ไม่ขึ้น โทรถามเพื่อนบอกว่าผิดขั้นตอน เอาใหม่ ผู้เขียนจึงตอกไข่แยกเอาแต่ไข่ขาวอีก 3 ฟอง คราวนี้ตั้งอกตั้งใจตีไข่ขาวอย่างเดียวก่อนเลย อุบ่ะ ! ตีไปเกือบ 20 นาที่ไข่ก็ไม่ยอมขึ้น ทำไงน้อ โทรหาครูผู้สอน ไม่รับสาย ตายละหวา ทำไงดี โทรหา น้องอิ๋ว ผู้เชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่อีกคน เอ้าดันไม่รับสายอีก เอาไงต่อละชีวิตไข่ขาวของอิชั้นจะเป็นไง นึกขึ้นได้ไวดั่งใจคิด โทรหาป้าสุดอีกคน ที่เป็นกูรูเรื่องอาหารและขนมอีกคน เตชะบุญ ป้าสุดรับสายทันที จึงขอความช่วยเหลือด่วน แนะนำวิธีตีไข่ให้ขึ้นฟูมาซะดี ๆ ป้าสุดไม่เช่นนั้นน้องจะต้องเททุกอย่างทิ้งแน่นอน  และในระหว่างคุยกับป้าสุดอยู่นั้น น้องอิ๋วก็ได้โทรกลับมาบอกเคล็ดลับและวิธีตีไข่ให้อีก แล้วก็ได้ความรู้จากป้าสุด และ น้องอิ๋วจนตีไข่ขึ้นฟู นำมาผสมจนทำเค้กช๊อกโกแลตได้สำเร็จ  555 รอดไป  

เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มฟู

แล้วก็มาถึงวิธีการทำซอสช็อคโกแลต เพื่อราดบนหน้าเค้ก ไม่ยากเท่าไหร่  แค่นำนมข้นจืด และ ผงช็อกโกแลต แป้งข้าวโพด ผงวุ้น น้ำตาล ผสมกันให้ได้ตามสัดส่วน แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนข้น ปิดไปแล้วใส่เนยสด คนจนเนยละลาย แล้วนำไปราดบนหน้าเค้ก แค่นี้เราก็ได้เค้กช็อกโกแลต หน้านิ่มแล้วค่ะ อร่อยด้วยรอบนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ 70 % เพราะตอนอบดันทำเค้กไหม้ไป 5 ชิ้นแน่ะ แต่ไม่เป็นไรเนื้อข้างในอร่อยผู้เขียนจึงปาดส่วนที่ไหม้ทิ้ง แล้วเอาซอสที่เคี่ยวไว้ ราดลงไปเลยค่ะ ว้าว ! อร่อยมากเลยเพราะเนื้อเค้กหอมกลิ่นไหม้นิด ๆ อร่อยซอสที่ราดด้วยแหละ  

เค้กที่อบแล้วหน้าไหม้

ตอนที่เห็นเค้กหน้าไหม้ ครั้งแรก คิดว่า เอาแล้ว ๆ เราได้ของหนึ่งใน 7 อย่างไปไหว้พระราหูแล้ววุ้ย 555 ดีนะที่ปาดหน้าส่วนที่ไหม้ออกได้ จึงไม่เสียหายเท่าที่ควร ทุกอย่างอร่อย โดยเฉพาะตัวซอสช็อกโกแลต ผู้เขียนใช้ผงโกโก้สำเร็จ ของสตาร์บัค ที่มันมีอยู่แล้วในบ้าน อร่อยหอมมากกกกก

ผงโกโก้ของสตาร์บัค

ผู้เขียนมานั่งทบทวนดูแล้วการทำขนมเค้กครั้งนี้ ผู้เขียนใช้ กูรูให้คำแนะนำ ถึง 3 คนเชียวรึนี่ ทั้ง น้องนุช Nuch vilailuk ป้าสุด Sudjai Keintong น้องอิ๋ว Sarunya Sinankul โอ้ว ! มิน่าล่ะขนมเราถึงอร่อย อิอิ ยอตัวเอง รสชาติหวานนุ่มกำลังดี ทั้งตัวเค้กและหน้าเค้ก หอมหวาน อร่อยมากกลิ่นโกโก้ หอมละมุนติดปลายลิ้นสุด ๆ แต่ที่ได้มากกว่านั้นก็คือการได้ทดลองฝีมือตัวเองในการทำเค้ก ที่ใช้เตาอบรุ่นโบราณครั้งแรก เตาที่ไม่มีอุณหภูมิบอก ต้องใช้สายตาในการตัดสินใจเท่านั้น เก่งอ่ะตัวเรา แล้วก็ได้ความสนุก การลุ้นผลที่จะออกมาด้วย  นี่แหละเป็นสิ่งที่ชอบเลย ชอบลุ้น 

แล้วเจอกันใหม่ในบทความขนมตัวต่อไปค่ะ 

ทักทายสอบถาม 

 ไลน์ https://line.me/ti/p/S9ReekcXr-

เฟซบุ๊คhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100001454636104

รับตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งภาพ ถ่ายภาพต่าง ๆ รีวิวร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ ช่องยูทูบ ต่าง ๆ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ 

_____________________

เคล็ดลับผิวสวย

 

สาว ๆ วัย 30 + คุณดูแลผิวกายกันอย่างไรบ้าง ? 

หลาย ๆ คนคงตอบแบบไม่ลังเล ก็ทาโลชั่นบำรุงผิวไงแค่นี้ใคร ๆ ก็รู้ ใช่ค่ะการทาโลชั่นเพื่อบำรุงผิวก็เป็นสิ่งนึงที่เราควรทำเป็นประจำเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านนั่นเองค่ะ  แต่ด้วยอายุอานามที่มากขึ้นของตัวผู้เขียนเองทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณเพิ่มมากขึ้นหลายอย่าง ทั้งผิวแห้งกร้าน ผิวตกกระ แพ้ง่าย ผิวหยาบขึ้นไม่นุ่มลื่นเหมือนดังเช่นเมื่อก่อน ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุ เช่นแสงแดด ความเครียด วัยที่เพิ่ม อนุมูลอิสระทั้งภายนอกและภายใน ฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องความเปล่งปลั่งลดลง และอีกหลายสาเหตุที่เราไม่รู้ตัว

สำหรับตัวผู้เขียนแล้วการทาเพียงโลชั่นบำรุงผิวอย่างเดียวไม่เพียงพอ เป็นคนผิวแห้งมากเพราะมีสภาวะต่อมฮอร์โมนไร้ท่อเช่นต่อมไทรอยด์ผิดปกติอยู่ค่ะ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ผิวเราแห้ง ตามที่คุณหมอที่ตัวผู้เขียนเข้ารับการรักษาเคยบอกไว้ จึงทำให้ต้องหาตัวช่วยเพิ่มเติมจากโลชั่น เพื่อเสริมให้ผิวเราชุ่มชื้นขึ้นนั่นเองค่ะ

 

น้ำมันมะพร้าว

ภาพจากผู้เขียนเอง

ด้วยที่ตัวผู้เขียนเป็นคนต่างจังหวัด และที่บ้านก็มีต้นมะพร้าวอยู่หลายต้น ต้นไหนสูงมาก ๆ ก็สอยลูกลงมาไม่ได้ ต้องรอให้ร่วงลงมาเอง บางลูกก็นำมาทำกะทิได้ยังมีน้ำอยู่ บางลูกก็น้ำแห้งไปแล้วใช้ทำกะทิไม่ได้ ผู้เขียนจึงใช้ลูกที่ไม่มีน้ำนี่แหละนำมาปอกและขูดเอาเนื้อไปเคี่ยวเพื่อทำน้ำมันมะพร้าว เราจะได้น้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์มาก ๆ มาจากธรรมชาติแท้ ๆ โดยที่ไม่ต้องใส่อะไรเป็นสารเติมแต่งเลยค่ะ ผู้เขียนใช้น้ำมันมะพร้าวที่เคี่ยวจนได้ที่แล้ว นำมาทาผิวกาย เช่นแขน ขา และส่วนที่แห้งมาก ๆ เมื่อทาเป็นประจำแล้วทำให้ผิวบริเวณนั้นนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ เมื่อเราสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเลยนะ

น้ำมันมะพร้าว

ภาพจากผู้เขียนเอง

ผู้เขียนอยากจะบอกว่านี่เป็นเคล็ดลับผิวสวยดูดีมีออร่าของตัวผู้เขียนเองเลยค่ะ เพราะนอกจากน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแล้ว เมื่อทาตัวเราแล้วยุงไม่กัดด้วยนะคะ ปกป้องเราจากยุงได้ด้วยค่ะ ยุงไม่กัดตัวเราก็ไม่ลายไม่คัน ไม่เกา และไม่ป่วยเพราะยุงด้วยค่ะ  ความจริงแล้วตัวผู้เขียนค้นพบเคล็ดลับนี้ จากพ่อของผู้เขียนเอง เนื่องจากพ่อจะเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวไว้เยอะ เพื่อนำมาทาตัวเพื่อไม่ให้ยุงกัดช่วงหัวค่ำ ตอนดูทีวี ของทุก ๆ วัน ผู้เขียนจึงสังเกตว่านอกจากยุงไม่กัดพ่อแล้ว ผิวของพ่อไม่แห้งเหี่ยวเหมือนคนแก่ทั่วไปถึงแม้อายุมากถึง 86 ปีแล้วก็ตาม แต่กลับมีความชุ่มชื้นตึงและลื่นกว่าผิวแม่ที่เป็นผู้หญิงเสียอีกเพราะแม่ไม่ทาอะไรเลย พ่อทาน้ำมันมะพร้าวมาหลายสิบปี ก็คงเหมือนการทาโลชั่นให้ผิวมาตลอดนั่นแหละ มันเป็นของดีที่มีมาแต่โบร่ำโบราณเชียวนะนี่ เพราะนึกย้อนไปสมัยเด็ก ๆ ผู้เขียนเคยเห็นยายของผู้เขียนก็ใช้น้ำมันมะพร้าวแบบนี้หมักผมด้วยค่ะ ผมยายไม่หงอกเลย ดำยาวมากด้วย จะว่าย้อมผมคงเป็นไปไม่ได้สมัยนั้นคงไม่มีครีมย้อมผมแน่ ๆ ค่ะเส้นผมของยาย ดำเป็นมันเงาไม่หงอกแม้จะอายุมากแต่ผมยังดกดำ นั่นแสดงว่าน้ำมันมะพร้าวยังช่วยบำรุงเส้นผมได้อีกอย่างเช่นกัน 

สั่งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจากลิงก์นนี้้👇👇👇 

ttps://raka.is/r/mrd9

เดี๋ยวผู้เขียนจะแนะนำวิธีเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวไว้ใช้เองกันค่ะ วิธีนี้แล้วแต่วัตถุดิบและความสะดวกนะคะ 

• นำมะพร้าวที่เราปอกแล้ว ขูดเอาแต่เนื้อค่ะ จะใช้เป็นมะพร้าวดี หรือมะพร้าวน้ำแห้งแล้วก็ได้ใช้ได้เหมือนกัน

• เมื่อขูดแล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำค่ะ 

• นำไปตั้งไฟเคี่ยวไฟกลางไปเรื่อย ๆ จนใกล้จะเหลือแต่น้ำมันให้ลดไฟเป็นไฟอ่อน ๆ 

• เมื่อเคี่ยวจนได้น้ำมันใส ๆ แล้วให้ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น 

• เมื่อเย็นแล้วนำมากรอกใส่ขวดเก็บไว้ น้ำมันมะพร้าวจะไม่เสีย แม้จะไม่ใส่อะไรเลยตอนเคี่ยวก็ตาม ซึ่งบ้านผู้เขียนทำแบบนี้มานานแล้วจึงบอกได้ว่าไม่เสียจริง ๆ 

น้ำมันมะพร้าว

ภาพจากผู้เขียนเอง

การเคี่ยวแบบนี้น่าจะเปรียบได้กับการสกัดร้อน ถ้าคุณผู้อ่านสนใจการใช้น้ำมันมะพร้าวแบบนี้ แต่ไม่สะดวกหรือไม่มีมะพร้าวที่จะนำมาเคี่ยวแบบผู้เขียน ก็หาซื้อได้นะคะ เดี๋ยวนี้เค้ามีน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นขายแล้วค่ะ มีขายตามซุปเปอร์สโตร์ ร้านขายยาใหญ่ ๆ มินิมาร์ท หรือตามตัวแทนจำหน่าย ตามร้านค้าออนไลน์ใน platform social ต่าง ๆ ก็มีจำหน่ายค่ะลองหาซื้อมาใช้กันนะคะ เพื่อเพิ่มความสวยความสดใสให้ผิวพรรณกันค่ะ 

น้ำมันมะพร้าว

 

ภาพจากผู้เขียนเอง

ทาผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับความสดใสของผิวพรรณ ที่ได้จากธรรมชาติแท้ ใช้ดีจึงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ไม่เพียงช่วยดูแลเรื่องผิวเท่านั้น ยังช่วยบำรุงรักษาเส้นผมได้อีกด้วย ทำใช้เองก็ได้ หรือจะหาซื้อมาใช้ก็สะดวกมีขายอยู่ทั่วไป เคล็ดลับความสวยนี้อาจจะดูโบราณสักหน่อยแต่เชื่อเถอะ ดีจริง ๆ ผู้เขียนจึงนำมาบอกต่อค่ะ 

ทดลองสั่งน้ำมันมะพร้าวได้ตามลิงก์นี้นะคะ👇👇👇

https://raka.is/r/dKEL

สวยครบเครื่อง เรื่องความแซ่บ

ติดตามผลงานอื่น ๆ ทั้งงานบทความ บทความรีวิวร้านอาหาร สถานที่ต่าง ๆ lifestyle ความสวยความงาม ทุกอย่างที่เจอะเจอ  รับตัดต่อคลิปวิดีโอ ตกแต่งภาพ ถ่ายภาพ ออกแบบป้าย สติกเกอร์ สินค้าต่าง ๆ ผลงานช่องออนไลน์ ตามลิงก์ด้านล่างนะคะ 👇👇👇👇👇

YouTube

Blogger

fanpage facebook

Blockdit

trueid

พูดคุยสอบถาม

Line

Facebook

_____________________

รีวิวร้านอาหารทุ่งเนินแจง คาเฟ่ และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

รีวิว ร้านอาหาร  cafe  & Resort 

ทุ่งเนินแจง cafe & Resort สถานที่กินเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ คลายอารมณ์ พร้อมชมทุ่งนาข้าวที่อุดมสมบูรณ์ ชุ่มฉ่ำ ดื่มด่ำ กับบรรยากาศสวยๆ ที่มีทิวภูเขาเป็น background ให้อย่างงดงามแบบลงตัว  

สำหรับคนไหนที่ชอบสถานที่มีมุมถ่ายรูปเยอะ ๆ ตรงนี้เหมาะมาก ๆ ค่ะ ทุกจุดคือสวรรค์ของนักเซลฟี่เลยค่ะ ทั้งมุมที่เป็นธรรมชาติ  มุมคาเฟ่ชิค ๆ มุมร้านอาหาร ที่อยู่ริมสระน้ำเย็นสะบายตา ช่วงเย็นจะมีโซนดนตรีสดให้เพลิดเพลินไปกับมื้อเย็นด้วยค่ะ คือดีอ่ะ !!! 

สะพานไม้ไผ่

https://youtu.be/yG70MuREmHA

คลิปจากยูทูบ

https://youtu.be/yG70MuREmHA

ถ้าเผลอดื่มด่ำกับรสชาติของอาหาร และบรรยากาศจนไม่อยากกลับบ้าน  ก็นอนพักซะที่นี่เลยก็ได้นะคะ เพราะมีรีสอร์ท ไว้ต้อนรับสำหรับท่านที่อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติด้วยค่ะ รีสอร์ทเป็นบ้านไม้สวยมากค่ะ 

บ้านพักแบบรีสอร์ท

สะพานทอดยาวไปตามทุ่งนา

ตัวผู้เขียนชอบสะพานที่ทอดยาวไปตามทุ่งนาคะ ช่วงกลางวันก็สวย ช่วงเย็นหรือตะวันตกดินแล้วยิ่งสวยมาก ๆ ค่ะ จะมีดวงไฟติดตามสะพานตลอดแนวทางเดิน ให้ความรู้สึกสบาย ๆ หรือนั่งห้อยขา จิบไวน์กับใครสักคน ก็คงดีไม่ใช่น้อยค่ะ

สะพานทางเดินตอนกลางคืน

บรรยากาศตอนเย็น

ผู้เขียนได้นำภาพบรรยากาศสวย ๆ มาฝากได้ไม่มาก ความจริงอยากให้ ทุก ๆ คนที่ได้อ่านรีวิวนี้ได้มีโอกาสไปชมด้วยตัวเองนั่นแหละค่ะ เพราะมีอีกมากมายหลายกิจที่รวมอยู่ในนี้ค่ะ ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มีให้ขี่ช้างชมทุ่งด้วยค่ะ

มีผลไม้จากสวนนำมาวางขายด้วยนะคะ

ร้านผลไม้ทางเข้า

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นตรงนี้เป็นทั้งร้านอาหาร เป็นทั้งร้านกาแฟ เป็นทั้งที่เที่ยว เรามาคุยกันเรื่องอาหารดีกว่าค่ะ ว่าเป็นอย่างไร  ผู้เขียนสั่งมา 4 เมนู  ปีกไก่ทอดน้ำปลา ผัดเผ็ดเนื้อกวาง ส้มตำข้าวโพดปูม้า กุ้งราดซอสมะขาม อร่อยทุกเมนูค่ะ

ปีกไก่ทอดสมุนไพร

ส้มตำปูม้าใส่ข้าวโพดหวาน

ผัดเผ็ดเนื้อกวาง

เพิ่มคำบรรยายภาพ

แต่ชอบปีกไก่ทอดสมุนไพรค่ะ ทอดได้อร่อยมาก กรอบนอก นุ่มใน รสเข้าถึงเนื้อ และยังมีตะไคร้ กับพริกแห้งทอดเป็นเครื่องเคียงมาให้ด้วยค่ะ เป็นกับข้าว เป็นกับแกล้ม ก็ดีทั้งสองอย่างเชียวค่ะ 

วันว่างหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังนึกไม่ออกว่าไปนั่งชิลตรงไหน ขอแนะนำเลยค่ะ ทุ่งเนินแจง Cafe & Resort ตั้งอยู่ที่ 50/1 บ้านตานาด ตำบล เนินแจง อำเภอ เมือง จังหวัด อุทัยธานี ค่ะ  การเดินทางสะดวกได้ทางรถยนต์ ถ้ายังนึกเส้นทางไม่ออก ค้นหาเส้นทางตาม google map ก็จะพาเราไปถึงที่เลยค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถนะคะ  จัดไว้ให้เยอะมากค่ะ   ด้วยพื้นที่ทั้งหมดกว้างใหญ่ ที่กะด้วยสายตาไม่น้อยกว่าร้อยไร่ กว้างสุดลูกตาค่ะ มีเวลาเดินให้ทั่วนะคะ  วันหยุดถัดไป นัดกับคนรู้ใจ  นัดกับเพื่อน ๆ นัดกับสมาชิกในครอบครัว ไปใช้เวลาร่วมกันค่ะ ☺️☺️☺️☺️☺️

ติดตามผลงานอื่น ๆ ทั้งงานเขียนบทความ รีวิวต่าง ๆ ไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร สถานที่ต่าง ๆ ทุกอย่างที่เจอะเจอ 

Blogger

YouTube

fanpage facebook

Blockdit

ทักทาย สอบถาม

Line

Facebook

_____________________